Search
Close this search box.

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเล ภูเขา วัด หรือวิถีชีวิตคน แต่บางคนไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เราจึงได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาแนะนำ ไม่ว่าฤดูไหน อากาศไหนๆ คนไทยก็ชอบไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดเพื่อเติมพลัง จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อเทศกาลสิ้นสุดลงสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงาม และเห็นชีวิตประจำวันของผู้คนในหมู่บ้าน หรือลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ได้แล้ววันนี้ เราจึงนำไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวมาฝาก เป็นกำลังใจให้กันเที่ยวกันนะครับ ไปดูก่อนว่าเคยไหม เราจะได้เห็น

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ดอยหลวงเชียงดาว - จังหวัดเชียงใหม่

ดอยหลวงเชียงดาว - จังหวัดเชียงใหม่

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เที่ยวบรรยากาศดี กลางธรรมชาติ ตกกลางคืนไปนอนดูดาวสวยๆ บรรยากาศโรแมนติกแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในละครเท่านั้น แต่มีที่ดอยหลวงเชียงดาว. จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภูเขาหินปูนที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ไม่มีอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่มันไม่แห้ง อีกทั้งยังมีพันธุ์ไม้ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เช่น เทียนนกแก้วที่มีดอกเป็นรูปนกแก้ว ที่จะอยู่ที่นี่เท่านั้น เพื่อนๆ สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม ของทุกปี อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย -7 องศาเซลเซียส

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องนั่งรถโดยสารที่ขนส่งช้างเผือกจังหวัดเชียงใหม่ ค่ารถราคา 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง โดยบอกคนขับว่าจะไปลงที่โลตัสเชียงดาว และควรจะไปถึงโลตัสเชียงดาวก่อนเที่ยง เพราะจะมีวินรถสองแถวขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอยู่ ค่ารถคนละ 50 บาท ซึ่งจะมีคนขับมาคอยเรียกคนอยู่หน้าโลตัส แต่ถ้าไปไม่ทันรอบเที่ยงจะต้องเหมาสองแถวขึ้นไป ค่ารถจะตกอยู่ที่ประมาณ 500-600 บาท/เที่ยว จากโลตัสเชียงดาวรถสองแถวก็จะพาเราเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว ที่นี่เพื่อนๆต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท แล้วรถสองแถวก็จะพาเราไต่ดอยสูงไปยังหมู่บ้านนาเลาใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลีซู สถาน ที่ ท่องเที่ยว แม่ริม 2565

หินสามวาฬ - จังหวัดบึงกาฬ

หินสามวาฬ - จังหวัดบึงกาฬ

หินสามวาฬเป็นสถานที่สำหรับเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ อายุกว่า 75 ล้านปี รูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวพ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่ โดยมีต้นไม้สีเขียวล้อมรอบเปรียบเสมือนน้ำทะเล วาฬตัวที่เราสามารถเดินขึ้นไปได้ จะเป็นวาฬตัวพ่อและแม่ โดยเราจะเริ่มต้นเดินไปที่วาฬตัวพ่อก่อนจะเจอทางเชื่อมไปยังวาฬตัวแม่ที่อยู่ตรงกลาง ส่วนตัวลูกจะไม่สามารถเดินได้เพราะแคบมาก บนหลังวาฬนี้จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในภูสิงห์ เพราะจะได้เห็นแสงสีส้มทองไล่เฉดจากการไต่ระดับขึ้นฟ้าของพระอาทิตย์โดยมีฉากหน้าเป็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และยังมองเห็นแม่น้ำโขงที่อยู่ระหว่างไทยกับลาวอีกด้วย แต่ว่าการจะขึ้นไปบนหินสามวาฬต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะด้วยสภาพของหินและน้ำค้างที่ตกลงมาอาจจะทำให้ลื่นตกหน้าผาได้ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบเที่ยวแบบที่รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง~ จะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เลย

การเดินทาง เพื่อนๆสามารถเดินทางไปยังบึงกาฬได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่ขับไปจาก กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 758 กิโลเมตร หรือถ้านั่งรถไฟก็ไปลงหนองคายแล้วไปต่อรถประจำทาง ถ้านั่งเครื่องบินก็ลงที่จังหวัดอุดรธานีแล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดบึงกาฬได้เหมือนกัน

เกาะนางยวน - จังหวัดสุราษฎ์ธานี

เกาะนางยวน - จังหวัดสุราษฎ์ธานี

เกาะนางยวนที่ไม่ได้มีดีแค่ชื่อที่เย้ายวนใจชวนให้มาพิสูจน์ แต่ยังงดงามราวกับสวรรค์จนได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักดำน้ำนิยมเดินทางมา เพราะมีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยังสมบูรณ์สวยงามอยู่ และมีปลาการ์ตูนตัวน้อยใหญ่ แหวกว่ายไปมาให้ชมอย่างเพลิดเพลิน บนยอดเขาด้านบนจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองลงมาเห็นหาดทรายสีขาวสะอาดตาทอดยาวผ่านน้ำทะเลสีเขียวมรกตเชื่อมต่อระหว่างหมู่เกาะสามเกาะเอาไว้ด้วยกัน และที่นี่ยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนหาดเดียวกัน ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะนางยวนที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก การเดินทาง การเดินทางไปยังเกาะพงัน เพื่อนๆสามารถไปได้สองทาง คือ นั่งเรือด่วนจากท่าเรือท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มายังเกาะเต่าแล้วค่อยต่อไปยังเกาะพงัน และอีกเส้นทางคือมาจากสุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย-เกาะเต่า-เกาะพงัน

หลีเป๊ะ - จังหวัดสตูล

หลีเป๊ะ - จังหวัดสตูล

เพื่อนๆคนไหนที่ฝันอยากจะไปฮันนีมูนที่มัลดีฟส์สักครั้งแต่งบดันไม่พอ ต้องมาที่หลีเป๊ะเลยค่ะ เพราะหาดของที่นี่งดงามราวกับสวรรค์บนดินจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยหาดทรายขาวสะอาดกับน้ำที่ใสแจ๋วจนเห็นโขดหินและผืนทรายที่อยู่ใต้น้ำนี้ ทำให้หลีเป๊ะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าเพื่อนๆได้มาที่หลีเป๊ะแล้ว มีสิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดซันไรซ์ และชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซ็ท เพราะวิวจะสวยมากจนถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาที่หลีเป๊ะเลย

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องไปที่ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ที่นี่จะมีเรือไปที่เกาะหลีเป๊ะทุกวัน เพื่อนๆสามารถเดินทางได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี แต่ว่าอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศกันก่อนนะคะ หรือจะเลือกนั่งเครื่องบินไปลงที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้วค่อยต่อรถไปก็ได้

เขื่อนรัชชประภา - จังหวัดสุราษฎ์ธานี

เขื่อนรัชชประภา - จังหวัดสุราษฎ์ธานี

เขาสก หรือเขื่อนรัชชประภา เดิมชื่อว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และด้วยความสวยงามทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน น้ำใสสีเขียวมรกต และถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะมาเที่ยวที่เขื่อนเชี่ยวหลาน เราแนะนำให้มาเที่ยวกันในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เพราะอากาศช่วงนี้จะเย็นสบาย ไม่ค่อยมีฝนตก แถมในช่วงเช้ายังมีหมอกออกมาให้ได้ชมกันอีกด้วย

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องเดินทางไปยังบริเวณท่าเรือหลังเขื่อนเพื่อติดต่อเรือ และก่อนลงเรือจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ส่วนค่าเรือก็จะคิดแบบเหมารำไปกลับประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อรำ ขึ้นอยู่กับขนาดเรือ

ดอยเสมอดาว - จังหวัดน่าน

ดอยเสมอดาว - จังหวัดน่าน

เพื่อนๆคนไหนที่ชื่นชอบการดูดาวจะต้องจดดอยเสมอดาวไว้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ดูดาวที่สวยที่สุดในประเทศไทย สมกับฉายา “ดาวเสมอดอย ที่ดอยเสมอดาว” จริงๆค่ะ ตอนกลางคืนเพื่อนๆจะได้สัมผัสกับอากาศที่แสนเย็นสบาย และนอนดูดวงดาวที่สว่างเต็มผืนฟ้า ส่วนในตอนเช้าก็จะมีทะเลหมอกสวยๆให้เพื่อนๆได้ชมกัน

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องไปขึ้นรถทัวร์ไปลงที่สถานีขนส่งอำเภอเวียงสา แล้วไปต่อรถเมล์สีเขียวที่มีป้ายเขียนไว้ว่า เวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น เพื่อไปลงที่อำเภอนาน้อย ถ้าไปถึงแล้วที่นั่นจะมีรถกระบะรับจ้างสำหรับพาไปดอยเสมอดาวอยู่

ภูชี้ดาว - จังหวัดเชียงราย

ภูชี้ดาว - จังหวัดเชียงราย

ภูชี้ดาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงรายที่นักท่องเที่ยวหลายคนกำลังจับตามอง เพราะสวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้าเลย ถ้าเพื่อนๆมาที่นี่จะสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้าได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว การเดินทางขึ้นมาอาจจะค่อนข้างลำบาก และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเพื่อนๆขึ้นมาถึงแล้ว รับรองได้เลยว่าวิวสวยๆจะทำให้เพื่อนๆรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้ขึ้นมาชมแน่นอน

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องใช้เส้นทางดอยผาตั้งหรืออำเภอเวียงแก่นเพื่อมายังภูชี้ดาว และเมื่อถึงทางที่จะขึ้นไปยังภูชี้ดาวแล้ว เพื่อนๆต้องโดยสารรถ 4×4 ไปยังจุดจอดรถ แล้วเดินต่อไปบนยอดภูชี้ดาวอีกประมาณ 300 เมตร

เสม็ดนางชี - จังหวัดพังงา

เสม็ดนางชี - จังหวัดพังงา

สถานที่ท่องเที่ยว พัทยา 2023 อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมากจนต้องไปให้ได้สักครั้งก็คือ เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา ที่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบทะเลใต้เพียงเท่านั้น แต่ยังมีจุดกางเต็นท์นอนดูดาวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยไม่แพ้ภาคเหนือเลย ที่จุดชมวิวเพื่อนๆจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบสุดแสนอันซีนเหนืออ่าวพังงา ท่ามกลางเทือกเขาหินปูนและท้องทะเลที่รายล้อมอยู่

การเดินทาง ถ้าเพื่อนๆมาจากภูเก็ตให้ใช้เส้นทางที่จะไปพังงา ผ่านสะพานสารสินมาประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เพื่อนๆกลับรถตรงวัดท่านุ่น แล้วจะมีซอยที่เขียนว่า “ท่าเรือบ้านหินร่ม” ระยะทางจากปากซอยเพียง 15 กิโลเมตร ก็จะถึงทางขึ้นจุดชมวิว

สามพันโบก - จังหวัดอุบลราชธานี

สามพันโบก - จังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับเพื่อนๆที่เป็นสายผจญภัยคงไม่มีใครไม่รู้จักสามพันโบกที่ถูกขนานนามว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” แน่นอน สามพันโบกจะมีลักษณะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่คล้ายภูเขาอยู่กลางลำน้ำโขง โดยจะมีแอ่งกว่า 3,000 แอ่ง ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งทำให้มองเห็นเป็นภาพต่างๆที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ หัวใจคู่ สุนัข หรือแม้แต่มิกกี้เม้าส์ก็มีให้เห็นตามแต่เพื่อนๆจะจินตนาการกันเลย

การเดินทาง เพื่อนๆจะต้องนั่งรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-สองคอน มาลงที่บ้านสองคอน แล้วนั่งรถสองแถวต่อไปยังสามพันโบก

น้ำตกปิตุ๊โกร อุทยานแห่งชาติอุ้มผาง - จังหวัดตาก

น้ำตกปิตุ๊โกรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเส้นทางสุดโหด แต่ปลายทางจะมีสิ่งสวยงามรออยู่ เพื่อนๆที่จะไปจำเป็นต้องพกความอึดและร่างกายที่สตรองค์พร้อมลุยเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องเดินบุกป่า ฝ่าดง ลุยน้ำกันเป็นระยะทางไกล แถมยังต้องค้างคืนกันในป่าอีกด้วย แต่ขอเลยว่าเมื่อมาถึงน้ำตกแล้ว ความงดงามของน้ำตกปิตุ๊โกรจะทำให้เพื่อนๆลืมความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

การเดินทาง เพื่อนๆต้องนั่งรถจากอุ้มผางไปยังหมู่บ้านกุยเลอตอ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เแล้วเดินเท้าเพื่อไปยังน้ำตกปิตุ๊โกรกันต่อ สถานที่ท่องเที่ยว กาญจนบุรี 2566